อาหารเสริมลดสิว

 

          สิวเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นตุ่มขึ้นมาบนผิวหนัง สิวมักเกิดขึ้นที่ส่วนต่างๆ ของร่างกายที่มีต่อมไขมัน ซึ่งเป็นต่อมที่ผลิตน้ำมันขนาดเล็ก บนใบหน้า หลัง หน้าอก คอ และต้นแขน มีทั้งชนิดสิวหัวดำ สิวหัวขาว สิวผดที่หน้าผาก มีการอักเสบ เป็นผื่น ผิวหนังแดง และบางครั้งเมื่อสิวหายแล้วยังก่อให้เกิดแผลเป็นฝังลึกไว้บนผิวหนังด้วย หลายคนจึงพยายามมองหาวิธีลดสิว ไม่ว่าจะเป็น อาหารเสริมลดสิว วิตามิน ลดสิว หรือชนิดทา เช่น ครีมลดสิว มาร์คหน้า ลดสิว รวมไปถึง เซรั่ม ลดสิว

แร่ธาตุ และวิตามินที่มีผลช่วยลดอาการสิว และเหล่าอาหารเสริมลดสิว ได้แก่

  1. วิตามินเอ (Vitamin A)
  2. สังกะสี (Zinc)
  3. วิตามินดี (Vitamin D)
  4. วิตามินอี (Vitamin E)
  5. วิตามินซี (Vitamin C)
  6. น้ำมันปลา (Fish oil)
  7. อีฟนิ่งพริมโรส (Evening primrose)
  8. ซีลีเนียม (Selenium)
  9. น้ำมันมะพร้าว (Coconut oil)

เราสามารถจำแนกสิวได้ตามความรุนแรงคือ

  • สิวเล็กน้อย แผลไม่อักเสบ หรือแผลอักเสบเล็กน้อย หรือทั้งสองอย่าง
  • สิวปานกลาง แผลอักเสบมากขึ้น แผลแข็ง มีอาการเจ็บปวด
  • สิวรุนแรง แผลอักเสบเป็นวงกว้าง หรือเป็นสิวปานกลาง ที่เกิดอย่างต่อเนื่องมากว่า 6 เดือน และไม่ดีขึ้นด้วยการรักษา

          กรณีสิวรุนแรงอาจนำไปสู่การเกิดรอยแผลเป็นถาวร แม้ว่าสิวอาจพบได้บ่อยที่สุดในช่วงวัยรุ่น แต่ก็สามารถดำเนินต่อไปได้ในวัยผู้ใหญ่ และบางคนอาจมีปัญหาเรื่องสิวไปเกือบตลอดชีวิต หรือบางคนอาจมีปัญหาสิวผดด้วย อาหารเสริมลดสิว ผดหรือสิวอักเสบ หรือสิว ทั่วๆไป เป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น

          เพื่อให้เข้าใจว่าสิวเกิดขึ้นได้อย่างไร การทำความเข้าใจเกี่ยวกับผิวหนังจะช่วยให้เข้าใจสาเหตุของการเกิดสิวที่ง่ายยิ่งขึ้น เพื่อมองหาอาหารเสริมลดสิว ที่เหมาะกับคุณ โดยพื้นผิวของผิวหนังจะถูกปกคลุมด้วยรูเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกับต่อมน้ำมันหรือต่อมไขมันใต้ผิวหนัง รูเหล่านี้เรียกว่ารูขุมขน เป็นทางผ่านของสารที่ต่อมไขมันผลิต ต่อมไขมันผลิตของเหลวที่เรียกว่าซีบัม (Sebum) โดยต่อมน้ำมันจะส่งซีบัมขึ้นสู่ผิวผ่านช่องบางๆ ที่เรียกว่ารูขุมขน

          สิวเกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนเกิดการอุดตันไปด้วยเซลล์ผิวที่ตาย ความมันส่วนเกิน และแบคทีเรีย โดยในช่วงวัยแรกรุ่น ฮอร์โมนมักทำให้ต่อมน้ำมันผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากเกินจำเป็น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดสิวเช่นเดียวกัน ยา ปรับฮอร์โมนเพศหญิง ลดสิวก็เป็นหนึ่งวิธีการรักษาสิวประเภทนี้

สิวมีสามประเภทหลัก

  • สิวหัวขาวเป็นรูขุมขนที่อุดตันและปิด แต่โผล่ออกมาจากผิวหนัง ปรากฏเป็นตุ่มแข็งสีขาว
  • สิวหัวดำเป็นรูขุมขนที่อุดตันแต่ยังคงเปิดอยู่ ปรากฏเป็นจุดด่างดำเล็ก ๆ บนพื้นผิวของผิวหนัง
  • สิวอักเสบคือรูขุมขนที่ผนังเปิดออก ปล่อยให้น้ำมัน แบคทีเรีย และเซลล์ผิวที่ตายแล้วเข้าไปอยู่ใต้ผิวหนัง ปรากฏเป็นตุ่มสีแดงที่บางครั้งมีหนองด้วย

วิตามินเอ (Vitamin A)

อาหารเสริมลดสิว ในรูปแบบวิตามิน ลดสิวที่เป็นปัญหาใหญ่ของคุณได้

วิตามินเอ (Vitamin A) คืออะไร?

         วิตามินเอ (Vitamin A) เป็นวิตามินที่จำเป็นที่พบในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เป็นหนึ่งในวิตามินที่มีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน การมองเห็น และสุขภาพผิวของ ด้านผิวพรรณวิตามินเอช่วยให้ผิวของดูเรียบเนียนและมีสุขภาพดี หลายคนใช้วิตามินเอ เป็นหนึ่งในตัวช่วยอาหารเสริมลดสิว

          วิตามินเอเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายที่สามารถทำลายเซลล์ ทำให้แก่ก่อนวัยได้ วิตามินเอยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนซึ่งช่วยในการสร้างเซลล์ใหม่และซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย จึงมีหลายคนนิยมพูดถึงคอลลาเจน ลดสิว ซึ่งเป็นอาหารเสริมลดสิวอีกชนิดหนึ่ง

          นอกจากนี้ยังมีรูปแบบของวิตามินเอ อีกหลายรูปแบบ เช่น เบต้าแคโรทีน (Beta carotene) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ เบต้าแคโรทีนพบได้ในพืช เช่น แครอทและมันเทศ วิตามินเอรูปแบบนี้สามารถแปลงเป็นวิตามินเอโดยร่างกายได้ และเรตินอล (Retinol) เป็นอีกรูปแบบของวิตามินเอที่ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ วิตามินเอรูปแบบนี้มาจากสัตว์ เช่น น้ำมันตับปลา ไข่ และนม

วิตามินเอ (Vitamin A) รักษาสิวได้อย่างไร?

          วิตามินเอเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นอาหารเสริมลดสิว ที่สามารถช่วยลดจำนวนแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวบนผิวของคุณได้ การผสมผสานของสารวิตามินเอและอนุพันธ์ของเรตินอยด์ สามารถช่วยต่อสู้กับสิวโดยการลดการอักเสบ และวิตามินเอยังช่วยปกป้องผิวชั้นบนจากแบคทีเรียและการติดเชื้อ

          อาหารเสริมลดสิว วิตามินเอยังจำเป็นสำหรับการผลิตซีบัมในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งเป็นน้ำมันธรรมชาติที่ช่วยหล่อลื่นผิวและเส้นผม โดยการผลิตซีบัมที่มากเกินไปสามารถทำให้ผิวไวต่อการเกิดสิวมากขึ้น โดยดึงดูดแบคทีเรียและทำให้เสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบ

          วิตามินเอยังช่วยควบคุมปริมาณน้ำมันในผิวอีกด้วย โดยถ้าคุณมีผิวแห้ง วิตามินเอสามารถช่วยรักษาความชุ่มชื้นและมีแนวโน้มที่จะเกิดสิวลดน้อยลง

         อาหารเสริมลดสิว รูปแบบเรตินอยด์ยังช่วยรักษารอยแผลเป็นจากสิว รอยดำจากสิว ได้อีกด้วย มีข้อมูลที่แสดงว่าเรตินอยด์ช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิว โดยอาจจะไม่ใช่วิธีแก้ไขรอยแผลเป็นได้อย่างรวดเร็ว แต่วิตามินเอสามารถช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายได้

          โดยสรุปวิตามินเอช่วยให้ปัญหาสิวดีขึ้นโดย

  • ลดการอักเสบ
  • เพิ่มการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวเพื่อรักษาแผลและรอยแผลเป็น
  • ทำให้การผลิตซีบัม (น้ำมัน) ลดลง
  • ช่วยให้ผิวเรียบเนียน

ปริมาณของวิตามินเอ (Vitamin A) สำหรับใช้รักษาสิว

          ปัจจุบันนี้ จะเห็นได้ว่ามีการใช้อาหารเสริมลดสิว รูปแบบวิตามินเอในหลายรูปแบบสำหรับรักษาสิว เช่นแบบรับประทาน อาหารเสริม ลดสิว และแบบครีม ลดสิว ซีรั่ม ลดสิว เป็นต้น

          ปริมาณวิตามินเอแสดงอยู่ในหน่วยสากล (IU) โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ระบุว่าปริมาณของวิตามินเอต่อวันสำหรับผู้ที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไปคือ 5,000 IU

          นอกจากนี้อาหารเสริมลดสิว วิตามินเอในรูปแบบของครีมและเซรั่ม เช่น ครีม ลดสิว เซรั่ม ลดสิว ที่ความเข้มข้นเพียง 0.25% พบว่าให้ประโยชน์โดยมีผลข้างเคียงน้อย แต่อาจมีการสั่งจ่ายในความเข้มข้นที่สูงขึ้นได้ เมื่ออยู่ในการดูแลของแพทย์

          เมื่อเริ่มต้นใช้อาหารเสริมลดสิว วิตามินเอเฉพาะที่ในครั้งแรก สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มทีละน้อยเพื่อให้ผิวของคุณคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ เช่นใช้วันเว้นวันในช่วงแรกก่อน หลังจากนั้นค่อยๆเพิ่มเป็น ทุกวันเป็นต้น โดยการเริ่มต้นทีละน้อยสามารถลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงเช่นรอยแดงและการลอกได้

          อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือควรใช้อยู่ในความดูแลของแพทย์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการรับประทานหรือใช้เกินขนาดที่แนะนำหรือใช้นานกว่าที่แนะนำ

ผลข้างเคียงและข้อควรระวังในการใช้วิตามินเอ (Vitamin A)

          อาหารเสริมลดสิว วิตามินเออาจช่วยรักษาสิว และควบคุมระบบภูมิคุ้มกันโดยรวมให้ดี อย่างไรก็ตาม ไม่ควรรับประทานวิตามินเอมากเกินไปเพื่อรักษาสิว ซึ่งอาจนำไปสู่ผลกระทบด้านสุขภาพที่รุนแรง เช่น ตับอักเสบ

          ผลข้างเคียงจากอาหารเสริมลดสิว วิตามินเอที่พบได้เมื่อใช้มากเกินไป ได้แก่ อาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว สำหรับวิตามินเอในรูปแบบทา เมื่อใช้มากเกินไปอาจทำให้เกิดผิวหนังบางลง ระคายเคือง เพิ่มความไวของผิวต่อแสงแดดได้อีกด้วย ดังนั้นควรทาครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันผิวจากการทำลายจากแสงแดด

 

สังกะสี (Zinc)

อาหารเสริมลดสิว แร่ธาตุที่ต้องการในปริมาณไม่มาก แต่ก็สำคัญ

 

สังกะสี (Zinc) คืออะไร?

          ซิงค์เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่จำเป็น แม้ว่าต้องการในปริมาณที่น้อย แต่จำเป็นในทุกอวัยวะ และเนื้อเยื่อในร่างกาย ช่วยให้เซลล์ต่างๆทำงานได้อย่างถูกต้อง มีบทบาทสำคัญในการรักษาบาดแผล ต่อสู้กับการติดเชื้อ ไวรัส และแบคทีเรีย ควบคุมระบบภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ รวมถึงโรคมะเร็ง สังกะสีอาจช่วยลดระดับความเครียดช่วยให้คุณรับมือกับความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้ดีขึ้น

          สังกะสีหรือซิงค์มีความสำคัญต่อสุขภาพเพราะช่วยให้ร่างกายรักษาสมดุลของฮอร์โมนและสารสื่อประสาท สังกะสียังจำเป็นสำหรับการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงซึ่งนำออกซิเจนไปยังทุกส่วนของร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาบาดแผลและการเติบโตของเซลล์ เป็นหนึ่งอาหารเสริมลดสิวได้

          สังกะสีพบได้ในอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์และปลา อาหารทะเล (เช่นหอยนางรม) นอกจากนี้ยังพบในถั่ว ถั่ว และธัญพืชไม่ขัดสี

สังกะสี (Zinc) รักษาสิวได้อย่างไร?

          เมื่อพูดถึงด้านสุขภาพผิว ซิงค์ ลดสิวได้ โดยจะทำงานร่วมกับวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ เพื่อซ่อมแซม ปกป้อง และฟื้นฟู นอกจากนี้ยังช่วยต้านแบคทีเรียและต้านการอักเสบ

          หลายคนกิน zinc ลดสิว และบางครั้งซิงค์ถูกมองว่าเป็น "แร่ธาตุแห่งความงาม" เนื่องจากสามารถช่วยบำรุงผิว เล็บ และผมได้ ดังนั้นสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดของการขาดธาตุสังกะสีคือเล็บเปราะและผมร่วง นอกจากนี้ยังมีอาการผื่นและซีโรซิส หรือที่รู้จักว่าผิวแห้งและเป็นสะเก็ด เกิดขึ้นเนื่องจากชั้นบนสุดของผิวหนัง

          เมื่อพิจารณาสาเหตุของการเกิดสิว สิวเกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนอุดตันไปด้วยความมัน แบคทีเรีย และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ดังนั้นคุณสมบัติต้านการอักเสบของสังกะสี จึงช่วยให้ร่างกายลดอาการบวมและรอยแดงได้ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยที่ได้รับสังกะสีพบว่ามีการเกิดสิวลดลงเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับ

          และเนื่องจากสังกะสียังช่วยรักษาบาดแผล จึงสามารถช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวที่หลงเหลืออยู่ได้

ปริมาณของสังกะสี (Zinc) สำหรับใช้รักษาสิว

          แหล่งซิงค์ที่ดีที่สุดมาจากการรับประทานอาหาร แต่สำหรับผู้ที่ขาดสังกะสี อาหารเสริมลดสิวด้วยซิงค์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวที่ช่วยได้ ปริมาณที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่คือไม่เกิน 40 มิลลิกรัม แต่อย่างไรก็ตามปริมาณที่ใช้อาจแตกต่างกันออกไปขึ้นกับความรุนแรงของสิวที่เกิดขึ้น อยู่ระหว่าง 40-150 มิลลิกรัม

          สำหรับรูปแบบทา แพทย์ผิวหนังอาจสั่งครีม ลดสิว ที่มีส่วนประกอบของสังกะสี เพื่อลดน้ำมันและกำจัดแบคทีเรีย เช่นในรูปแบบของ Zinc sulfate, Zinc acetate, Zinc octoate เป็นต้น

ผลข้างเคียงและข้อควรระวังในการใช้สังกะสี (Zinc)

          การรับประทานอาหารเสริมลดสิว ซิงค์ ลดสิว มากเกินไป อากอาจเกิดอาหารไม่พึงประสงค์ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ดังนั้นคุณสามารถเริ่มต้นด้วยขนาดที่น้อยๆ ก่อน และรับคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนัง เพื่อค้นหาสาเหตุของการเกิดสิวของคุณ โดยสิวของแต่ละคนตอบสนองต่อการรักษาต่างกันไป แพทย์ผิวหนังจะทำการประเมินผิวโดยละเอียด และให้การรักษาที่เหมาะสม

วิตามินดี (Vitamin D)

วิตามิน ลดสิวอีกตัวที่ไม่ควรขาด

 

วิตามินดี (Vitamin D)  คืออะไร?

          วิตามินดี (Vitamin D) เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสจากอาหาร โดยแหล่งอาหารหลักของวิตามินดี เช่น ปลาที่มีไขมัน ไข่แดง นม และยังสามารถได้รับวิตามินดีจากแสงแดด

          วิตามินดีมีความสำคัญต่อสุขภาพ ร่างกายต้องการวิตามินดีเพื่อดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสจากอาหาร ยังช่วยให้กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นประสาท หัวใจ และระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้วิตามินดียังเป็นหนึ่งในอาหารเสริมลดสิวอีกด้วย

วิตามินดี (Vitamin D) รักษาสิวได้อย่างไร?

          วิตามินดีช่วยควบคุมปริมาณแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกาย ซึ่งเป็นอาหารเสริมลดสิวได้โดยช่วยป้องกันสิว โดยการลดการผลิตไขมัน ยังช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในผิวของคุณอีกด้วย นอกจากนี้ วิตามินดียังช่วยให้ผิวแข็งแรงโดยลดการอักเสบและป้องกันการติดเชื้อ

          วิตามินดีหนึ่งในอาหารเสริมลดสิว ช่วยป้องกันแบคทีเรียไม่ให้เกาะติดกับผิว ควบคุมการอักเสบในร่างกาย ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมและรอยแดงได้

          วิตามินดีสามารถช่วยลดการเกิดสิวได้โดยการควบคุมการไหลเวียนโลหิต การไหลเวียนโลหิตเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากเป็นการนำสารอาหารมาสู่ผิว

          วิตามินดียังช่วยในเรื่องการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน จะเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวในร่างกาย ช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อและป้องกันแบคทีเรีย

          วิตามินดี อาหารเสริมลดสิวโดยการเพิ่มการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น

ปริมาณของวิตามินดี (Vitamin D) สำหรับใช้รักษาสิว

          ปริมาณอาหารเสริมลดสิว วิตามินดีที่แนะนำสำหรับรักษาสิวคือ 400 IU ต่อวัน และควรรับประทานร่วมกับอาหาร การรับประทานอาหารเสริมลดสิวที่อุดมด้วยวิตามินดีเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มระดับวิตามินดีเพื่อช่วยในการรักษาสิว การขาดวิตามินดี แล้วออกไปนั่งกลางแดดก็ไม่ใช่วิธีที่ดีในการได้รับวิตามินดี เนื่องจากการสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานานโดยไม่ใช้ครีมกันแดดอาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังได้

ผลข้างเคียงและข้อควรระวังในการใช้วิตามินดี (Vitamin D)

          การรับประทานอาหารเสริมลดสิว วิตามินดีมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ โดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) ได้กำหนดปริมาณสูงสุดของวิตามินดีไว้ที่ 100 ไมโครกรัมต่อวัน

         ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดคือการสะสมของแคลเซียมในเลือดมากเกินไป หรือเรียกว่าภาวะแคลเซียมในเลือดสูง แคลเซียมในเลือดสูงอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียน และการรับประทานวิตามินดีมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ นิ่วในไต ได้อีกด้วย

 

วิตามินอี (Vitamin E)

อาหารเสริมลดสิว สุดฮอต ทั้งแบบรับประทานและแบบทา

 

วิตามินอี (Vitamin E) คืออะไร?

         วิตามินอี (Vitamin E) เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญและมีการใช้มานานกว่า 50 ปีในด้านโรคผิวหนัง เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลายชนิด ปกป้องผิวจากผลร้ายต่างๆ อันเนื่องมาจากรังสีดวงอาทิตย์โดยทำหน้าที่เป็นสารกำจัดอนุมูลอิสระ เป็นอาหารเสริมลดสิวสุดฮิตที่มีใช้หลายรูปแบบ

         นอกจากนี้ยังอาจมีประสิทธิภาพในการลดอาการของโรคไขมันพอกตับ และเพื่อชะลอการลุกลามของโรคอัลไซเมอร์เล็กน้อยถึงปานกลาง วิตามินอียังใช้เพื่อขยายหลอดเลือด ลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือด โดยวิตามินอีพบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น ถั่ว น้ำมัน และธัญพืช

วิตามินอี (Vitamin E) รักษาสิวได้อย่างไร?

         วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่ามีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงเป็นหนึ่งตัวช่วยเป็นอาหารเสริมลดสิวอย่างดี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระต่อสู้กับอนุมูลอิสระในร่างกาย ที่ทำลายเซลล์ของร่างกาย ดังนั้นวิตามินอีจึงดีต่อการปกป้องเซลล์ผิวของร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย ในขณะเดียวกันก็มีส่วนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นด้วย

         ผิวสุขภาพดีเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันสิว โดยคุณลักษณะอย่างหนึ่งของวิตามินอีคือให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว การรักษาความชุ่มชื้นเป็นสิ่งสำคัญ ผิวของคุณอาจระคายเคืองและอักเสบได้ง่ายเมื่อแห้ง และด้วยคุณลักษณะที่ดีอีกประการหนึ่งคือช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งจะช่วยสุขภาพผิวหนัง หนังศีรษะ และเส้นผมดีขึ้นอีกด้วย

         อาหารเสริมลดสิว วิตามินอีในรูปแบบทา ไม่ว่าจะเป็นครีม ลดสิว ซีรั่ม ลดสิว ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย วิตามินอีถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วเพราะละลายในไขมัน ส่งผลให้สิวและรอยแผลเป็นจากสิวหายเร็วขึ้น ควบคุมการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง โดยคอลลาเจนช่วยเสริมสร้างผิวให้ผิวมีความยืดหยุ่นและชุ่มชื้น สามารถลดเลือนริ้วรอยและความแห้งกร้านของผิวได้เป็นอย่างดี คอลลาเจน ลดสิวได้อีกด้วย

         ฮอร์โมนเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดสิว เรียกว่า สิว ฮอร์โมน ดังนั้นการรักษาสมดุลของฮอร์โมนสามารถช่วยต่อสู้กับสิว ฮอร์โมนได้ โดยเฉพาะระดับของฮอร์โมนแอนโดรเจน เมื่อแอนโดรเจนเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีการผลิตน้ำมันมากขึ้น ความมันที่มากเกินไป ทำให้เกิดการอุดตัน แบคทีเรียเติบโตขึ้นได้ จึงจะเห็นได้ว่ามีหลายคนใช้ยาคุม ลดสิวฮอร์โมน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรักษา

ปริมาณของวิตามินอี (Vitamin E) สำหรับใช้รักษาสิว

         เราสามารถใช้วิตามินอีเพื่อรักษาสิว ได้ 2 รูปแบบ คือโดยวิธีรับประทานหรือทาลงบนผิวโดยตรงก็ได้

         ปริมาณอาหารเสริมลดสิว วิตามินอีที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่คือ 15 มิลลิกรัม ผู้หญิงที่ให้นมบุตรต้องการมากกว่าเล็กน้อยประมาณ 19 มิลลิกรัม ต่อวัน

         วิตามินอีมักมาในรูปของน้ำมัน เซรั่ม ลดสิว หรือครีม ลดสิว โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจมีส่วนผสมอื่นๆ ในการต่อสู้กับสิวและลดจุดด่างดำ รวมอยู่ด้วย เช่นวิตามินเอและ วิตามินซี โดยแบบทาเฉพาะที่มีข้อดีคือคุณสามารถรักษาเฉพาะจุดได้ ทาลงบนรอยสิวได้โดยตรงนั่นเอง

ผลข้างเคียงและข้อควรระวังในการใช้วิตามินอี (Vitamin E)

         วิตามินอี เป็นอาหารเสริมลดสิวที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาหารเสริมลดสิว วิตามินอีในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดท้อง อ่อนเพลีย อ่อนแรง ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว ผื่น ช้ำและมีเลือดออก เนื่องจากวิตามินอีสามารถยับยั้งการจับตัวเป็นลิ่มของเลือดได้ ซึ่งอาจส่งผลทำให้เลือดออกรุนแรงได้

         อาหารเสริมลดสิว วิตามินอีเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน การให้วิตามินอีในปริมาณที่สูงกว่าความต้องการรายวันส่งผลให้เกิดการสะสมภายในร่างกาย ส่งผลให้เกิดภาวะวิตามินอีสูงเกิน ซึ่งเกิดการรบกวนการเผาผลาญของวิตามินเค ส่งผลให้เกิดแนวโน้มเลือดออกได้

วิตามินซี (Vitamin C)

วิตามินสรรพประโยชน์ รวมถึงประโยชน์ด้านการเป็นอาหารเสริมลดสิวด้วย

 

วิตามินซี (Vitamin C) คืออะไร?

         วิตามินซี (Vitamin C) ที่รู้จักกันในชื่อกรดแอสคอร์บิก เป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพในด้านต่างๆ รวมทั้งผิวของคุณ แต่เนื่องจากร่างกายไม่สามารถผลิตวิตามินซีเองได้ จึงจำเป็นต้องได้รับเข้าสู่ร่างกายเท่านั้น

         อาหารเสริมลดสิว ด้วยวิตามินนี้ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสารประกอบที่ไม่เสถียร ซึ่งสามารถทำลายเซลล์ในร่างกาย

         ผิวมักได้รับผลกระทบจากอนุมูลอิสระมาก เนื่องจากการสัมผัสกับสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก และเผชิญกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น อาหาร ความเครียด การสูบบุหรี่ รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และมลภาวะต่างๆ ล้วนส่งผลต่อสุขภาพผิวทั้งสิ้น

         เนื่องจากสิวเป็นภาวะที่มีการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้รุนแรงขึ้นจากความเครียดจากสิ่งแวดล้อม อาหารเสริมลดสิว วิตามินซีจึงมีบทบาทในการรักษา และผลิตผิวใหม่

วิตามินซี (Vitamin C) รักษาสิวได้อย่างไร?

         สิวเป็นภาวะผิวหนังอักเสบที่เกิดจากรูขุมขนอุดตัน ทำให้เกิดรอยแดง บวม และบางครั้งมีตุ่มหนอง นอกจากการเกิดสิวแล้ว สิวยังทำให้หลายคนมีแผลเป็นหลังการอักเสบ อย่างไรก็ตาม การวิจัยระบุว่าอาหารเสริมลดสิว วิตามินซีสามารถรักษาอาการเหล่านี้ได้

        อาหารเสริมลดสิวโดย ลดการอักเสบ เนื่องจากวิตามินซีมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงอาจช่วยลดรอยแดงและบวมที่เกี่ยวข้องกับสิวได้เมื่อใช้เฉพาะที่

         ลดรอยแผลเป็นจากสิว เนื่องจากหลังจากเกิดสิวขึ้น ผิวของคุณต้องใช้เวลาในการรักษา หากไม่มีการรักษาที่เหมาะสม รอยแผลเป็นจากสิวอาจทิ้งไว้ตลอดไป แผลเป็นจากสิวมักเกี่ยวข้องกับสิวเรื้อรังที่รุนแรง แต่ก็อาจเป็นผลมาจากกรณีอื่นๆ เช่น การบีบ วิตามินซีรักษารอยแผลเป็นจากสิวโดยการเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่รับผิดชอบต่อโครงสร้างผิวของคุณและมีความสำคัญต่อการสร้างผิวใหม่ที่มีสุขภาพดี เป็นผลให้วิตามินนี้ช่วยเร่งการรักษาแผลสิว เป็นอาหารเสริมลดสิวได้

         ช่วยลดรอยดำ รอยดำคือการก่อตัวของจุดด่างดำบนผิวของคุณอันเป็นผลมาจากสิว รังสียูวี หรือการบาดเจ็บอื่นๆ การใช้วิตามินซีสามารถช่วยลดรอยดำ โดยการรบกวนเอนไซม์ที่เรียกว่าไทโรซิเนส ซึ่งมีหน้าที่ในการผลิตเมลานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีผิวตามธรรมชาติ นอกจากนี้ วิตามินซียังทำหน้าที่เป็นสารให้ความกระจ่างใสและสามารถลดรอยด่างดำโดยไม่เปลี่ยนสีตามธรรมชาติของผิวอีกด้วย

ปริมาณของวิตามินซี (Vitamin C) สำหรับใช้รักษาสิว

         ผักและผลไม้จำนวนมากอุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น พริกหยวก สตรอเบอร์รี่ มะเขือเทศ บร็อคโคลี่ ผักใบเขียว และผลไม้รสเปรี้ยว นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินซีมากมายในท้องตลาด เราจะเห็นได้จากมีการรับประทานน้ำมะเขือเทศดอยคำ ลดสิว ด้วย

         นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า วิตามินซี เช่น เซรั่ม ลดสิว มอยเจอร์ไรเซอร์ และครีม ลดสิว แม้ว่ากรดแอล-แอสคอร์บิกจะเป็นวิตามินซีรูปแบบที่ทรงพลังที่สุด แต่ก็มีความคงตัวน้อยที่สุดและเหม็นหืนอย่างรวดเร็ว เซรั่มวิตามินซี จึงมักมีปัญหาด้านความคงมักมีอายุการเก็บรักษาสั้น ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้อนุพันธ์วิตามินซีที่มีความเสถียรมากกว่า

         โดยหากคุณกำลังใช้ยารักษาสิวเฉพาะที่ หรือโดยการรับประทาน ให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญร่วมด้วย

ผลข้างเคียงและข้อควรระวังในการใช้วิตามินซี (Vitamin C)

         เซรั่มวิตามินซีส่วนใหญ่ค่อนข้างปลอดภัยที่จะใช้ แต่หากคุณมีผิวแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีกรดแอล-แอสคอร์บิก หรือหลีกเลี่ยงการใช้ในปริมาณสูง ผลิตภัณฑ์อาจทำให้เกิดรอยแดงและทำให้ผิวแห้งได้

         การเลือกใช้วิตามินรูปแบบแมกนีเซียมแอสคอร์บิลฟอสเฟต ซึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของวิตามินซี มีโอกาสทำให้เกิดการระคายเคืองน้อยกว่า

น้ำมันปลา (Fish oil)

ไม่ใช่แค่บำรุงสมอง แต่เป็นอาหารเสริมลดสิวได้

 

น้ำมันปลา (Fish oil) คืออะไร?

         น้ำมันปลาสกัดมาจากปลาที่อุดมไปด้วยสารที่ชื่อว่าโอเมก้า 3 เช่น ปลาแมคเคอเรลและปลาเฮอริ่ง หลายการศึกษาแนะนำว่าน้ำมันปลาเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิว

         Omega-3 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFA) ซึ่งเป็นสารอาหารประเภทหนึ่ง ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ เป็นอาหารเสริมลดสิวที่สำคัญ

น้ำมันปลา (Fish oil) รักษาสิวได้อย่างไร?

         น้ำมันปลาอาหารเสริมลดสิวที่มีประสิทธิภาพ เพราะมีส่วนประกอบคือโอเมก้า 3 ที่สามารถช่วยด้านผิวหนังได้ โดยน้ำมันปลาสามารถช่วย

  • รักษาสภาวะสมดุล
  • ยับยั้งการอักเสบโดยเฉพาะจากแสงยูวี
  • ส่งเสริมการสมานผิว

         นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าประโยชน์เหล่านี้เกิดจาก PUFA ในน้ำมันปลา ซึ่งรวมถึงกรด eicosapentaenoic (EPA) และกรด docosahexaenoic (DHA)

         ร่างกายจำเป็นต้องใช้กรดไขมันที่ได้รับจากอาหาร เพื่อใช้ในเยื่อหุ้มเซลล์ส่วนต่างๆของร่างกาย เมื่อเยื่อหุ้มเซลล์แข็งแรง เซลล์ก็สามารถกักเก็บน้ำได้ ส่งผลให้เซลล์มีความชุ่มชื้นและผิวหนังอ่อนนุ่ม

         อาหารเสริมลดสิว ด้วย กรดไขมันโอเมก้า 3 ยังช่วยลดการผลิตสารที่ทำให้เกิดการอักเสบอีกด้วย การเสริมโอเมก้า 3 ช่วยลดรอยโรคจากสิว

        อาหารเสริมลดสิว น้ำมันปลาบางชนิดมีสารอาหารอื่นๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินดี และซีลีเนียม วิตามินเอเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ ซึ่งเป็นส่วนผสมยอดนิยมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและการรักษาโรคผิวหนัง

         รอยดำหมายถึงรอยคล้ำของผิวที่เกิดขึ้นจากการผลิตเมลานินที่เพิ่มขึ้น โดยน้ำมันปลาอาจช่วยลดรอยดำได้หลายวิธี โอเมก้า 3 ช่วยลดการติดเชื้อและเร่งการรักษา ซึ่งมีประโยชน์ในกรณีรอยดำที่เกิดจากการบาดเจ็บที่ผิวหนัง และดีเอชเอยังสามารถยับยั้งการผลิตเมลานิน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดรอยดำที่เกิดจากรังสียูวีได้

ปริมาณของน้ำมันปลา (Fish oil) สำหรับใช้รักษาสิว

        อาหารเสริมลดสิว น้ำมันปลามีรสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นฉุน ดังนั้นการใช้เฉพาะที่จึงไม่เหมาะสมเสมอไป แคปซูลแบบรับประทานช่วยให้รับประทานน้ำมันปลาได้ง่ายขึ้น

         ไม่มีคำแนะนำปริมาณที่กำหนดไว้สำหรับอาหารเสริมลดสิว น้ำมันปลา อย่างไรก็ตาม ปริมาณอาหารที่แนะนำ (RDI) สำหรับ EPA และ DHA โดยเฉพาะคือประมาณ 250 มิลลิกรัม โดยปริมาณ EPA และ DHA ในน้ำมันปลาแต่ละชนิดนั้นแตกต่างกันอย่างมาก แต่โดยทั่วไปน้ำมันปลา 1,000 มิลลิกรัม คนมี EPA 180 มิลลิกรัม และ DHA 120 มิลลิกรัม

         การรับประทานน้ำมันปลาก่อนรับประทานอาหาร สามารถช่วยลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น กรดไหลย้อนและอาหารไม่ย่อย และเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ ก็ตาม ควรตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์ก่อนจะเริ่มรับประทาน

ผลข้างเคียงและข้อควรระวังในการใช้น้ำมันปลา (Fish oil)

         อาหารเสริมลดสิว น้ำมันปลาสามารถทำให้เกิดการแพ้ได้ในบางคนที่มีอาการแพ้ปลาหรือหอย อาการต่างๆ อาจรวมถึงอาการปวดหัว หายใจมีเสียงวี๊ด ท้องเสีย และลมพิษ

         โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่แพ้ปลาหรือหอย คนที่เป็นโรคเรื้อนกวางอยู่แล้วอาจพบว่าการแพ้น้ำมันปลา อาจทำให้เกิดอาการที่รุนแรงได้ หากบุคคลมีอาการแพ้อย่างรุนแรงต่อน้ำมันปลา เช่น หายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์ทันที

 

อีฟนิ่งพริมโรส (Evening primrose)

สารสกัดจากดอกไม้สีเหลือง อาหารเสริมลดสิว ตัวช่วยที่ดีของคุณ

อีฟนิ่งพริมโรส (Evening primrose) คืออะไร?

         อีฟนิ่งพริมโรส หรือ Evening primrose oil: EPO เป็นดอกไม้สีเหลืองที่เติบโตในสหรัฐอเมริกาและบางส่วนของยุโรป พืชชนิดนี้เคยถูกใช้เป็นยารักษาบาดแผลและปรับสมดุลฮอร์โมน

         ประโยชน์ในการรักษาอาจเนื่องมาจากปริมาณกรดแกมมาไลโนเลอิก (GLA) ที่สูง GLA เป็นกรดไขมันโอเมก้า 6 ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ เป็นอาหารเสริมลดสิวที่มีประสิทธิภาพที่ดี

อีฟนิ่งพริมโรส (Evening primrose) รักษาสิวได้อย่างไร?

         สิวอักเสบเป็นหนึ่งในปัญหาสิวที่พบบ่อยที่สุด โดยส่งผลกระทบต่อวัยรุ่นเกือบ 85% รวมถึงผู้ใหญ่จำนวนมาก โดยสิวเป็นโรคอักเสบเรื้อรัง ที่เกี่ยวข้องกับต่อมผลิตน้ำมัน (ไขมัน) และรูขุมขนในผิวหนัง

         อีฟนิ่งพริมโรส เป็นอาหารเสริมลดสิว ด้วยสามารถช่วยลดการเกิดสิวได้โดยการปรับสมดุลของกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 ในร่างกาย โดย อาหารเสริมลดสิว อีฟนิ่งพริมโรส มีกรดไขมันโอเมก้า 6 ในปริมาณสูง โดยเฉลี่ย EPO ประกอบด้วยกรดไลโนเลอิกประมาณ 70–74% และกรดแกมมา-ลิโนเลนิก (GLA) 8-10%

          กรดไลโนเลอิกเป็นกรดไขมันโอเมก้า 6 ที่ส่งเสริมสุขภาพผิวโดย

  • เสริมเกราะป้องกันผิว
  • กักเก็บน้ำในชั้นหนังกำพร้า
  • ป้องกันการติดเชื้อที่ผิวหนัง
  • ควบคุมการผลิตไขมัน

         ตามแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) การขาดกรดไขมันจำเป็นอาจทำให้ผิวแห้ง หยาบกร้าน ซึ่งเมื่อเทียบกับผิวที่มีสุขภาพดี ผิวที่เป็นสิวมีแนวโน้มจะสร้างซีบัมที่มี oxidized squalene ในระดับที่สูงกว่า ซึ่งเป็นสารประกอบที่ก่อให้เกิดการอักเสบของสิว

         ร่างกายแบ่งกรดไลโนเลอิกออกเป็น GLA ซึ่งเป็นกรดไขมันอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติเป็นอาหารเสริมลดสิว ต้านการอักเสบและต้านจุลชีพอีกด้วย

ปริมาณของอีฟนิ่งพริมโรส (Evening primrose) สำหรับใช้รักษาสิว

         อาหารเสริมลดสิว อีฟนิ่งพริมโรส มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบของอาหารเสริมรับประทาน และครีม ลดสิว ซีรั่ม ลดสิว สำหรับชนิดทาสามารถนำไปใช้กับสิวโดยทาลงบนจุดที่มีปัญหาสิวหรือผสมกับมอยเจอร์ไรเซอร์แล้วทาให้ทั่วใบหน้า

         แบบรับประทาน ปริมาณมาตรฐานของ อาหารเสริมลดสิว อีฟนิ่งพริมโรส สำหรับผู้ใหญ่อยู่ในช่วง 1–8 กรัมต่อวัน แต่ละยี่ห้ออาจมีข้อมูลปริมาณที่แตกต่างกันเล็กน้อย ดังนั้นควรอ่านคำแนะนำอย่างระมัดระวังก่อนใช้ผลิตภัณฑ์

ผลข้างเคียงและข้อควรระวังในการใช้อีฟนิ่งพริมโรส (Evening primrose)

         แม้ว่า อาหารเสริมลดสิว อีฟนิ่งพริมโรส โดยทั่วไปจะปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่การใช้ EPO อาจนำไปสู่ผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง เช่น ปวดหัว อาการปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องเสีย การระคายเคืองผิวหนัง

         สตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดสิว อีฟนิ่งพริมโรส เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนบางอย่างของการตั้งครรภ์ได้

         อาหารเสริมลดสิว อีฟนิ่งพริมโรส อาจโต้ตอบกับวาร์ฟารินและยาละลายลิ่มเลือดอื่นๆ ผู้ที่ใช้ยาเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ EPO

 

ซีลีเนียม (Selenium)

แร่ธาตุสำคัญ ถ้าขาดอาจทำให้เกิดปัญหาสิวได้

ซีลีเนียม (Selenium) คืออะไร?

         ซีลีเนียมเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อสุขภาพของเรา สามารถพบได้ และเกิดขึ้นตามธรรมชาติในน้ำและอาหารบางชนิด บทบาทสำคัญของซีลีเนียมในร่างกายเกี่ยวข้องกับการเผาผลาญและการทำงานของต่อมไทรอยด์ แม้ว่าเราต้องการในปริมาณเพียงเล็กน้อยแต่ก็เป็นแร่ธาตุสำคัญที่เราต้องได้รับผ่านทางอาหารที่เรารับประทาน และซีลีเนียมยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นหนึ่งในอาหารเสริมลดสิวได้

         ค่าปริมาณอาหารที่แนะนำ (RDA) สำหรับซีลีเนียมคือ 55 ไมโครกรัมต่อวันสำหรับผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 14 ปี อาหารที่มีปริมาณซีลีเนียม ได้แก่ ถั่วบราซิล วอลนัท ปลา เนื้อวัว เนื้อสัตว์ปีก และธัญพืชบางชนิด

         ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว แม้ว่าเรามีความต้องการซีลีเนียมในปริมาณน้อย แต่แร่ธาตุชนิดนี้ก็มีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย การสัมผัสกับมลพิษทางอากาศเช่น แสงแดดจัด และควันบุหรี่ อาจทำให้อาการขาดซีลีเนียมเกิดขึ้นได้ชัดเจนขึ้น

         อาการที่บ่งบอกว่าคุณขาดแร่ธาตุซีลีเนียม ได้แก่ สภาพผิวและผมอ่อนแอ ภาวะเจริญพันธุ์ไม่ดี ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ เล็บเปลี่ยนสี และเกิดสิว จึงมีการใช้เป็นอาหารเสริมลดสิวได้

ซีลีเนียม (Selenium) รักษาสิวได้อย่างไร?

คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ

         อาหารเสริมลดสิว ซีลีเนียมเพิ่มการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระได้ ซึ่งช่วยลดการอักเสบของสิวได้ นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ซีลีเนียม ยังช่วยลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันโดยควบคุมจำนวนอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณจำเป็นต้องเผชิญ และสัมผัสกับมลพิษทางอากาศในระดับที่สูง เช่น แสงแดดจัด และควันบุหรี่ ซีลีเนียมสามารถช่วยลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันบนผิวของคุณได้

คุณสมบัติต้านการอักเสบ

         อาหารเสริมลดสิว ซีลีเนียมทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับเอ็นไซม์ชนิดหนึ่งในร่างกายที่ชื่อว่า กลูตาไธโอนเปอร์ออกซิเดส ซึ่งสำคัญมากในการป้องกันการอักเสบของสิว มีการศึกษาพบว่าในระหว่างการเสริมซีลีเนียม ระดับกลูตาไธโอนในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซีลีเนียมเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่ช่วยลดอนุมูลอิสระหลายชนิดในร่างกาย และช่วยลดการอักเสบของสิวได้อีกด้วย

พลังในการปกป้องผิว

         อาหารเสริมลดสิว ซีลีเนียมปกป้องผิวจากรังสี UV ที่เป็นอันตราย ทำงานโดยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นและทนต่อแสงแดดได้มากขึ้น

ประโยชน์ของซีลีเนียมสำหรับสิวอักเสบ

         ซีลีเนียมเป็นอาหารเสริม ลดสิวที่ดี ในฐานะที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซีลีเนียมช่วยควบคุมสารที่ส่งเสริมการอักเสบในร่างกาย นอกจากลดการอักเสบแล้ว ซีลีเนียมต้านอนุมูลอิสระและช่วยปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันได้เช่นกัน ซึ่งอาจช่วยลดการเจริญเติบโตของ Propionibacterium acnes ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดสิวได้ โดยปกติ P. Acnes เป็นส่วนหนึ่งของไมโครไบโอมของผิวหนัง แต่เมื่อระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ P. Acnes ก็เกิดการแพร่จำนวน ของแบคทีเรียดังกล่าวสามารถนำไปสู่การเกิดสิวอักเสบ ด้วยเหตุนี้ ซีลีเนียมต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถช่วยควบคุมการอักเสบและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน อาจช่วยลดความรุนแรงของสิวได้

ซีลีเนียมสำหรับสิว ฮอร์โมน

         ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจทำให้เกิดสิวได้ ดังช่นใน ผู้ป่วย Hyperthyroidism ซึ่งมีฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป อาจนำไปสู่อาการต่างๆ เช่น ตัวสั่น ใจสั่น และน้ำหนักลด เป็นต้น สำหรับผิวหนัง ไทรอยด์ที่มากเกินไปอาจนำไปสู่การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และแน่นอนว่ายิ่งมีน้ำมันมากเท่าไร โอกาสการเกิดสิวก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ในฐานะที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเป็นส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับการเผาผลาญของฮอร์โมนไทรอยด์ ซีลีเนียมช่วยควบคุมภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน นอกเหนือจากการจัดการความผันผวนของฮอร์โมนไทรอยด์แล้ว ซีลีเนียมอาจช่วยลดสิวที่มาพร้อมกับโรคได้

ปริมาณของซีลีเนียม (Selenium) สำหรับใช้รักษาสิว

         การเสริมอาหารเสริมลดสิว ซีลีเนียมควบคู่กับวิตามินอีช่วยทำให้สิวดีขึ้น มีการศึกษาในผู้ที่เป็นสิวรุนแรง ใช้ซีลีเนียมในการรักษาสิวควบคู่ไปกับวิตามินอี การวิจัยให้ซีลีเนียมแก่ผู้ป่วย 0.2 มิลลิกรัม และโทโคฟีริลซัคซิเนต 10 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 6-12 สัปดาห์ ผลลัพธ์พบว่าสิวดีขึ้น และตุ่มหนองลดลง

         โดยแนะนำให้สามารถใช้ซีลีเนียมได้ในปริมาณไม่เกิน 400 ไมโครกรัมต่อวัน

ผลข้างเคียงและข้อควรระวังในการใช้ซีลีเนียม (Selenium)

         ซีลีเนียมยังมีผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ หากคุณรับประทานซีลีเนียมมากเกินไป หรือการใช้เกินขนาด ได้แก่ คลื่นไส้ ไข้ รวมไปถึงปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ตับ และไต ดังนั้น หากคุณกำลังคิดที่จะเสริมซีลีเนียม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้

 

น้ำมันมะพร้าว (Coconut oil)

สารกัดจากมะพร้าว อาหารเสริมลดสิว ตัวช่วยดีๆที่ไม่ควรพลาด

น้ำมันมะพร้าว (Coconut oil) คืออะไร?

         ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความนิยมของมะพร้าวและโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันมะพร้าวได้เพิ่มสูงขึ้นเนื่องมาจากประโยชน์ต่อสุขภาพ กระแสนิยมของเหล่าคนดังได้อ้างว่าส่วนผสมดังกล่าวช่วยขจัดไขมันหน้าท้อง ลดความอยากอาหาร เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคหัวใจ และป้องกันโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ รวมไปถึงการใช้สารสกัดจากมะพร้าวกับผิวหนังเพื่อหวังช่วยเสริมการทำงานและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้ เป็นอาหารเสริมลดสิวอีกหนึ่งตัวได้ได้รับความนิยม

         โดยน้ำมันมะพร้าวทำมาจากการสกัดน้ำมันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติออกจากเนื้อในสีขาวของมะพร้าวเอง เมื่อน้ำมันมะพร้าวเย็นตัวลงจะเป็นของแข็งสีขาว เมื่อถูกความร้อนจะกลายเป็นของเหลวใส น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่มีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งสามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูงเกินไปและเก็บรักษาได้นานโดยไม่ทำให้เกิดกลิ่นหืน

น้ำมันมะพร้าว (Coconut oil) รักษาสิวได้อย่างไร?

         น้ำมันมะพร้าวประกอบด้วยไขมันอิ่มตัว ประมาณ 85% และอีก 15% เป็นไขมันไม่อิ่มตัว  สิ่งสำคัญที่สุดคือปริมาณไขมันของน้ำมันมะพร้าวมาจาก MCFAs หรือกรดไขมันสายโซ่กลาง (เรียกอีกอย่างว่าไตรกลีเซอไรด์สายกลางหรือ MCT) กรดเหล่านี้แตกต่างจากกรดไขมันสายยาวที่พบในไขมันอิ่มตัวส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าไขมันอิ่มตัวอื่นๆ

         โดยสาร MCFA เป็นประโยชน์ในผู้ที่เป็นสิว MCFAs เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและคุณสมบัติต้านจุลชีพที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อและทำให้เกิดสิวได้ ในขณะเดียวกันก็ปกป้องผิวของคุณจากการโจมตีจาก สารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว

         สารต้านจุลชีพที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดใน MCFA ของน้ำมันมะพร้าวเรียกว่า กรดลอริก (Lauric acid) และยังมีกรดไขมันอื่น ๆ เรียกว่า Caproic, Capric และ Caprylic เป็นอาหารเสริมลดสิว

ประโยชน์ของกรดลอริก (Lauric acid) ในการรักษาสิว

         ในการศึกษาของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) กรดลอริกมีประสิทธิภาพเหนือกว่ากรดไขมันอื่นๆ ในฐานะ      เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและสารต้านจุลชีพ สามารถฆ่าเชื้อ P. Acnes ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เกี่ยวข้องหลักกับการอักเสบที่นำไปสู่การเกิดสิว

         ในการศึกษา Journal of Investigative Dermatology พบว่า กรดลอริกทำงานได้ดีกว่าเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในยาทารักษาสิวที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากที่สุด

         ในวารสารนาโนศาสตร์และการศึกษานาโนเทคโนโลยี กรดลอริกเมื่อให้ร่วมกับกรดเรติโนอิก ถือเป็นคู่หูที่ทรงพลังในการต่อสู้กับสิวด้วย

         น้ำมันมะพร้าวยังมีวิตามินอีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่สามารถต่อสู้กับมะเร็งผิวหนังและสารพิษจากสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ผิวแข็งแรง

ปริมาณของน้ำมันมะพร้าว (Coconut oil) สำหรับใช้รักษาสิว

         สามารถใช้น้ำมันมะพร้าวเพื่อช่วยป้องกันหรือรักษาสิวได้ 2 วิธี คือ ทา หรือรับประทาน

อาหารเสริมลดสิว ชนิดทา สามารถใช้ได้ 2 แบบ

  • อบไอน้ำผิวด้วยน้ำมันมะพร้าว โดยอบไอน้ำผิวหน้าโดยอังใบหน้ากับความร้อน เพื่อให้รูขุมขนเปิดเต็มที่ ใช้น้ำมันมะพร้าวในปริมาณเล็กน้อย ประมาณ 1 ช้อนชา แล้วนวดให้ซึมเข้าสู่ผิว หลังจากนั้นนำผ้าเช็ดหน้าชุบด้วยน้ำร้อนแล้วกดลงบนผิวของคุณ ลูบผิวเพื่อนำน้ำมันมะพร้าวที่เหลือออก จากนั้นเช็ดให้แห้งด้วยผ้าขนหนู
  • น้ำมันมะพร้าวอุ่น ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า น้ำมันมะพร้าวในสภาวะเย็นจะเป็นของแข็งสีขาว เมื่อถูกความร้อนจะกลายเป็นของเหลวใส คุณสามารถใช้น้ำมันมะพร้าวทาเพื่อรักษาสิวได้ โดยใช้น้ำมันมะพร้าวกับบริเวณที่มีปัญหาได้โดยตรงโดยถูให้ซึมเข้าสู่ผิว

การรับประทานน้ำมันมะพร้าว

อาหารเสริมลดสิว น้ำมันมะพร้าวมักใช้ในการปรุงอาหารเพราะมีรสชาติอร่อยและสามารถทนต่ออุณหภูมิความร้อนสูงได้ คุณสามารถรับประทานปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน หรือผสมในอาหารต่างๆก็ได้

ผลข้างเคียงและข้อควรระวังในการใช้น้ำมันมะพร้าว (Coconut oil)

         อาหารเสริมลดสิว น้ำมันมะพร้าวนั้นค่อนข้างปลอดภัยเมื่อรับประทานในปริมาณเหมาะสม แต่เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวมีไขมันชนิดหนึ่งที่สามารถเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลได้ ดังนั้นคนควรหลีกเลี่ยงการกินน้ำมันมะพร้าวมากเกินไป น้ำมันมะพร้าวปลอดภัยเมื่อใช้ในระยะสั้น การใช้น้ำมันมะพร้าวในปริมาณ 10 มิลลิลิตร 2-3 ครั้งต่อวันนานถึง 12 สัปดาห์ ปลอดภัย

         สำหรับชนิดทา อาหารเสริมลดสิว น้ำมันมะพร้าวก็มีความปลอดภัยสูงเช่นเดียวกัน

เลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนเป็นอาหารเสริมลดสิวตามธรรมชาติที่ดีเยี่ยม

          การรับประทานอาหารที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการรักษาและป้องกันสิวด้วยวิธีธรรมชาติ และอาจไม่จำเป็นต้องซื้ออาหารเสริมลดสิวมาเพิ่มเติม เนื่องจากการอักเสบทำให้เกิดสิว การเลือกอาหารที่ช่วยลดการอักเสบจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น

          การเลือกรับประทานแหล่งไขมันโอเมก้า 3 ที่ต้านการอักเสบ เช่น ปลาที่มีไขมันและเมล็ดเจีย มากกว่าแหล่งไขมันที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 6 ที่อาจก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น คาโนลาและน้ำมันถั่วเหลือง อาจลดอาการสิวได้

          การเติมผักและผลไม้หลากสีให้เต็มจานเป็นอีกวิธีหนึ่งในการบรรเทาอาการอักเสบและลดอาการสิว อาหารเหล่านี้ส่งสารต้านอนุมูลอิสระต้านการอักเสบและสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวอื่นๆ เช่น วิตามินซี ไปยังร่างกายของคุณ

          และหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นผลิตภัณฑ์นม อาหารกลั่น และอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง อาหารแปรรูป อาหารจานด่วน อาหารแช่แข็ง ของหวานและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเช่น ลูกอม, เค้ก, โซดา, คุกกี้, น้ำตาลทราย, เครื่องดื่มชูกำลัง, น้ำอัดลม, น้ำผลไม้

          แต่อย่างไรก็ตามถ้าคุณไม่สามารถรับอาหารตามธรรมชาติได้อย่างเพียงพอ อาหารเสริมลดสิวเป็นหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น