สมองเป็นหนึ่งในอวัยวะที่ซับซ้อน ซึ่งประกอบด้วยเซลล์หลายพันล้านเซลล์ แต่ละเซลล์มีการเชื่อมต่อหลายพันเซลล์กับเซลล์อื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีบทบาทสําคัญในการเรียนรู้และความจํา สมองทํางานได้ดีเป็นสิ่งสําคัญอย่างยิ่ง สําหรับสุขภาพจิต และสุขภาพกายที่ดี วิตามินบำรุงสมองจึงสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของเด็ก การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของวัยทำงาน และการรักษาระบบการทำงานที่ดีของสมอง ต่อวัยสูงอายุ
สมองประกอบด้วยเซลล์หลายพันล้านเซลล์ มีบทบาทสําคัญในการเรียนรู้และความจํา
สารบัญเนื้อหา
แล้ววิตามินบำรุงสมอง มีอะไรบ้าง?
มีวิตามินบำรุงสมองมากมายที่กล่าวกันว่าดีที่สุดสําหรับการบำรุงสมอง ทั้ง วิตามินบำรุงสมองลูก วิตามินบำรุงสมอง วัยเรียน วิตามินบำรุงสมอง วัยทำงาน รวมถึงวิตามินบำรุงสมองผู้สูงอายุ ตัวอย่างเช่น
- วิตามินบี 6 มีส่วนร่วมในการสร้างสารสื่อประสาท ซึ่งเป็นสารเคมีที่ช่วยในการส่งข้อความระหว่างเซลล์ประสาท นอกจากนี้ยังช่วยในการควบคุมการผลิตพลังงาน และมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ วิตามินบี 6 สามารถหาได้จากอาหารเสริมหรืออาหาร เช่นเนื้อสัตว์ ปลา และผลิตภัณฑ์นม มีหลักฐานว่าการขาดวิตามินบี 6 อาจเพิ่มความเสี่ยงของการพัฒนาภาวะสมองเสื่อม
- วิตามินบี 12 มีความสําคัญต่อระบบประสาทส่วนกลางและมีส่วนร่วมในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง มีส่วนร่วมในการรักษาระดับน้ําตาลในเลือด และระดับฮอร์โมนอินซูลินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม วิตามินนี้ยังช่วยควบคุมการเผาผลาญ การพัฒนา และการเจริญเติบโต วิตามินบี 12 สามารถหาได้จากอาหารเสริมหรืออาหาร เช่นเนื้อสัตว์ ปลา และผลิตภัณฑ์นม
- วิตามินซี มีความสําคัญต่อการพัฒนาและบํารุงรักษาสมอง ระบบประสาท และดวงตา มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยลดการอักเสบ วิตามินซีสามารถหาได้จากผลไม้เช่นส้มหรืออาหารเสริม มีหลักฐานว่าวิตามินซีช่วยป้องกันการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์ในสมอง
- วิตามินดี ช่วยในการพัฒนาเนื้อเยื่อของร่างกายทั้งหมดและรักษากระดูก เล็บ ฟัน และผิวหนังให้แข็งแรง วิตามินนี้ยังมีส่วนร่วมในการเจริญเติบโตและพัฒนาของเซลล์ โดยวิตามินดีสามารถรับได้จากแสงแดด หรืออาหารเสริม
- วิตามินอี ช่วยในการทํางานของสมอง โดยปกป้องสองจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น อันเป็นผลมาจากการบาดเจ็บหรือโรค วิตามินนี้มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยลดการอักเสบ และยังมีส่วนร่วมในการเจริญเติบโตและการพัฒนาของเซลล์
- วิตามินเค มีความสําคัญต่อสุขภาพของกระดูก ฟัน หลอดเลือด และช่วยในการควบคุมการแข็งตัวของเลือด วิตามินเคสามารถหาได้จากอาหารบางชนิดเช่นผักใบเขียวหรืออาหารเสริม พบว่าผู้หญิงที่ขาดวิตามินเคมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อม
กลุ่มวิตามินบี (Vitamin B)
มีการศึกษาพบว่าวิตามินบีสามารถลดการหดตัวของสมองในผู้สูงอายุได้ โดยปกติแล้วทุกปีของชีวิต สมองของเราจะหดตัวลงประมาณ 1% เกิดขึ้นเพราะเมื่อเราอายุมากขึ้นเซลล์ประสาทของเราจะตาย เป็นผลให้สมองหดเล็กลง และอาจเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดที่นำเลือดมาเลี้ยงสมองลดลง และการหดตัวของสมองยังเกี่ยวข้องกับปริมาณของวิตามินบีที่ลดลงอีกด้วย
วิตามินบี 6 (Vitamin B6)
วิตามินบี 6 เป็นวิตามินที่ละลายในน้ําที่มีบทบาทสําคัญในปฏิกิริยาทางเคมีหลายอย่างในร่างกาย
วิตามินบี 6 มีสองรูปแบบคือ
- ไพริดอกซีน (Pyridoxine)
- ไพริดอกซอล (Pyridoxal)
รูปแบบที่พบมากที่สุดของวิตามินบี 6 คือไพริดอกซีน (Pyridoxine) ซึ่งพบได้ในเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ปีก ปลา เช่นปลาแซลมอน ไข่ ธัญพืช ผลิตภัณฑ์นม ถั่วต่างๆ
วิตามินบี 6 เป็นหนึ่งในสารที่จําเป็นสําหรับการผลิต Myelin ซึ่งเป็นสารไขมันที่ป้องกันเส้นใยประสาท Myelin มีบทบาทสําคัญในการทํางานของสมองและระบบประสาท หากไม่มีวิตามินบี6 เพียงพอ ร่างกายจะไม่สามารถผลิต Myelin ได้อย่างเพียงพอที่จะปกป้องเส้นประสาทจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
Myelin ซึ่งเป็นสารไขมันที่ป้องกันเส้นใยประสาท มีบทบาทสําคัญในการทํางานของสมองและระบบประสาท
วิตามินบี 12 (Vitamin B12)
วิตามินบำรุงสมอง บี 12 เป็นสิ่งจําเป็นสําหรับเซลล์เม็ดเลือด และจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์ดีเอ็นเอในร่างกาย นอกจากนี้ยังจําเป็นสําหรับการสังเคราะห์กรดไขมันและช่วยรักษาระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกันให้มีสุขภาพที่ดี
การขาดวิตามินบี 12 อาจทําให้เกิดโรคโลหิตจาง รวมไปถึงความเสียหายของเส้นประสาท ความบกพร่องทางสติปัญญาในผู้สูงอายุ และภาวะสมองเสื่อมได้ วิตามินบี 12 ถือเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับการเจริญเติบโตอย่างปกติทั้งในเด็กและวัยรุ่น และการขาดวิตามินนี้อาจทําให้เกิดการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ และการทํางานของสมองและระบบประสาทบกพร่อง
ดังที่กล่าวไปแล้ว วิตามินบำรุงสมอง บี 12 เป็นสิ่งจําเป็นสําหรับการทํางานอย่างเป็นปกติของระบบประสาท การขาด อาจทําให้เกิดปัญหาทางระบบประสาทหลายแบบ รวมถึง Neuropathy (ความเสียหายของเส้นประสาท) นอกจากนี้ยังอาจทําให้เกิดปัญหากับกล้ามเนื้อและเส้นประสาท บริเวณ ตา หู และระดับของวิตามินบี 12 ในร่างกายที่ต่ำเกินไป เชื่อมโยงกับความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
การขาดวิตามินบี 12 พบได้บ่อยในผู้ที่มีปัญหาลําไส้หรือกระเพาะอาหาร หรือรับประทานมังสวิรัติที่เข้มงวด ความเสี่ยงของการขาดวิตามินบี 12 ยังเพิ่มขึ้นตามอายุด้วย
วิตามินซี (Vitamin C)
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพ ที่ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับความเสียหายจากความเครียดของปฎิกิริยาออกซิเดชัน เป็นสารอาหารที่จําเป็นเพราะร่างกายเราไม่สามารถผลิตเองได้ ดังนั้นจึงต้องได้รับผ่านอาหารหรือการเสริมเท่านั้น
วิตามินซีมีหน้าที่หลายอย่างในร่างกาย รวมถึงการผลิตคอลลาเจนและการทํางานของภูมิคุ้มกัน ด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมในปฏิกิริยา การทำงานของเอนไซม์ต่างๆจํานวนมาก รวมทั้งการแปลงของแคโรทีนอยด์เป็นวิตามินเอและการผลิตของสารสื่อประสาทโดพามีน
แหล่งอาหารที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ ผักและผลไม้ ผักสีเขียว เช่นผักโขมและบรอกโคลี ผลไม้ เช่น กล้วย มะละกอ สับปะรด กีวี น้ำส้มและซีเรียล นม โยเกิร์ต และชีส
อาหารที่มีวิตามินซีสูง ช่วยทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินดี (Vitamin D)
หน้าที่หลักของวิตามินดีคือการส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียม และสุขภาพกระดูก นอกจากนี้การขาดวิตามินดีอาจทําให้เกิดความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย อย่างไรก็ตามพบว่าผู้ที่มีระดับวิตามินดีในเลือดต่ำอาจมีความเสี่ยงสูงในการเกิดอาการที่เกี่ยวข้องกับสมองและระบบประสาท เช่นการสูญเสียความทรงจําและความสับสน
อาหารที่มีวิตามินดีสูง ได้แก่ ถั่วเหลือง ไข่แดง น้ำมันตับปลา เห็ด น้ำส้ม เป็นต้น
วิตามินอี (Vitamin E)
วิตามินอียังมีคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยป้องกันความผิดปกติของระบบประสาท เนื่องจากวิตามินอี เป็นวิตามินที่ละลายในไขมันจึงสามารถผ่านเข้าไปที่เซลล์สมองได้
มีการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่าวิตามินอี สามารถมีประโยชน์ต่อความจําในผู้สูงอายุ และพบว่าวิตามินอีในปริมาณสูงสามารถช่วยผู้ที่เป็นโรคอัลไซเมอร์เล็กน้อยถึงปานกลางให้มีอาการที่ดีขึ้นได้ โดยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นของเซลล์ในสมอง ที่ทำงานเกี่ยวกับหน่วยความจำ ทำให้สามารถป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ
วิตามินอีพบได้ในอาหาร เช่น ผักคะน้า ผักโขม ถั่ว อัลมอนด์ น้ำมันรำข้าว ธาตุเหล็ก ซึ่งจะช่วยส่งออกซิเจนเลี้ยงสมอง
วิตามินเค (Vitamin K)
วิตามินเคเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า
-
วิตามินเค 1 หรือ Phylloquinone
-
วิตามินเค 2 Menaquinone
วิตามินเคเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับการแข็งตัวของเลือดและรักษาโครงสร้างของกระดูก ฟัน กระดูกอ่อน และเนื้อเยื่อในร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยรักษาสุขภาพกระดูกที่เหมาะสมโดยการส่งเสริมการผลิต Osteocalcin ในเซลล์กระดูก
วิตามินเคช่วยสมองได้อย่างไร วิตามินเคเป็นสารจําเป็นสําหรับการสังเคราะห์โปรตีนบางชนิดในเซลล์สมอง อาจยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนที่ชี้ให้เห็นว่าช่วยหรือขัดขวางการลุกลามของโรคอัลไซเมอร์ แต่แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาอ่อนที่ทานวิตามินเค 2 เสริม มีประสิทธิภาพทางปัญญาที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ใช้อาหารเสริม
โรคอัลไซเมอร์มักเกิดได้บ่อยในผู้สูงอายุ
อาหารเสริมบำรุงสมอง อื่นๆ
แปะก๊วย (Ginkgo biloba)
ซึ่งเป็นอาหารเสริมสมุนไพรที่ใช้มานานหลายศตวรรษ เพื่อป้องกันการสูญเสียความทรงจํา แต่อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง ยังมีหลักฐานไม่มากที่จะชี้ให้เห็นว่าแปะก๊วยช่วยเพิ่มหน่วยความจําหรือป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ มีการศึกษา พบว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแปะก๊วยอาจเป็นประโยชน์สําหรับผู้ที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญาเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ผู้ที่เป็นโรคอัลไซเมอร์
กรดไขมันโอเมก้า 3 (Fatty acid – Omega 3)
อาจช่วยอาการของโรคจิตเภท ในการศึกษาในผู้ที่มีโรคจิตเภท ที่รับประทานกรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นเวลา 6 เดือน พบว่าอาการบวกและลบดีขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ โดยกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปลา ช่วยลดการอักเสบและลดความเสียหายของสมอง ซึ่งอาจช่วยป้องกันหรือชะลอการลุกลามของโรคจิตเภทนั่นเอง
เคล็ดลับ วิธีบำรุงสมอง นอกจากเสริมวิตามินบำรุงสมอง ความจำ
วิธีที่ดีที่สุดในการช่วยความจําของคุณ สําหรับคนหนุ่มสาวและผู้สูงอายุคือการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารสำหรับสมองอย่างครบถ้วนรวมไปถึงการออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ
อาหาร วิตามินบำรุงสมอง ที่ดี ได้แก่ ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ เช่นเนื้อปลา เลือกใช้การใช้น้ํามันมะกอกในปริมาณเพื่อเตรียมอาหาร
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เพื่อชะลอกระบวนการเสื่อมของสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ การปรับเปลี่ยนลดระดับความเครียดของคุณผ่านการออกกําลังกายและการผ่อนคลายเป็นประจํายังสามารถปรับปรุงการทํางานของสมองได้อีกด้วย
การสูบบุหรี่ จัดเป็นพฤติกรรมที่ทำลายสมอง
วิตามินบำรุงสมอง ที่ดีที่สุดคืออะไร?
มีอาหารเสริม วิตามินบำรุงสมองมากมายในท้องตลาด ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีชนิด และปริมาณของวิตามินที่มีสรรพคุณบำรุงสมอง นอกจากนี้ต้องดูคุณภาพของอาหารเสริมด้วย
และหากคุณต้องการรับประทานวิตามินบำรุงสมองเสริม ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ หรือเภสัชกร เนื่องจากแต่ละคนมีความต้องการวิตามิน สารอาหารที่แตกต่างกัน และมีโรคร่วม หรือวิถีชีวิตที่แตกต่างกันนั่นเอง