มีหลายปัจจัยที่ทำให้หลายคนได้รับวิตามินบี อาหารที่มีส่วนประกอบของวิตามินบีที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นสิ่งสำคัญ เราควรจะต้องทำเข้าใจก่อนว่าอาหารแบบใดบ้างที่มี วิตามินบี อาหารนั้นต้องรับประทานในปริมาณที่มากน้อยแค่ไหนนั่นเอง

          แต่ถ้าเราไม่สามารถที่จะรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินบี อาหารเสริมวิตามินบี ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วย ในการแก้ปัญหาการได้รับวิตามินบี ไม่เพียงพอได้เช่นกัน

          วิตามินบี อาหารเสริมหลักต่อร่างกายที่ช่วยบำรุงร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาท โดยวิตามินบีนั้นมีอยู่หลากหลายชนิด บางทีเราอาจเรียกว่า วิตามินบีรวม ซึ่งหมายถึง กลุ่มของวิตามินที่ประกอบไปด้วยวิตามินบีหลากหลายชนิด เป็นกลุ่มของวิตามินบีที่มีประโยชน์เพื่อบำรุงสุขภาพและฟื้นฟูร่างกาย

อาการชาจากการขาดวิตามินบี

อาการเหน็บชาจากการขาดวิตามินบี

          โดยในสภาวะปกติ ร่างกายของเราจะได้รับวิตามินบีจากการรับประทานอาหาร แต่ในบางครั้งก็อาจไม่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ เช่นจากปัญหาสุขภาพของร่างกายที่และบุคคลที่แตกต่างกันออกไปทำให้อาจมีความต้องการวิตามินบี ที่มากเกินกว่าปกติที่ร่างกายต้องการ หรือในบางสภาวะที่มีปัญหาการดูดซึมของวิตามินบีเข้าสู้ร่างกายได้ไม่เต็มที่เป็นต้น

           นอกจากนี้ด้วยสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ที่มีความเร่งรีบ ทำให้การเลือกรับประทานอาหารเป็นไปได้ยากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินบี อาหารในแต่ละมื้ออาหารของเรา ถ้าขาดวิตามินบีและส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ ดังนั้นจึงมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ประกอบไปด้วยวิตามินบี อาหารเสริมเหล่านี้จึงเข้ามามีส่วนช่วยเสริมให้ร่างกายได้รับวิตามินบีได้อย่างเพียงพอ

รวมทุกความรู้และผลิตภัณฑ์

วิตามินบี

ไขข้อสงสัย วิตามินบี ช่วยอะไร ในแต่ละบุคคลที่แตกต่างกัน

วิตามินบี ช่วยอะไร ในกลุ่มสตรีมีครรภ์?

          ในกลุ่มสตรีมีครรภ์จะมีความต้องการวิตามินบีที่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิตามินบี 9 และวิตามินบี 12 เพื่อสำหรับการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ในระหว่างที่ตั้งครรภ์นั่นเอง นอกจากนี้ถ้าได้รับวิตามินบีไม่เพียงพอ อาจจะทำให้เด็กในครรภ์เกิดความเสียหายต่อระบบประสาทได้ด้วยเช่นกัน

วิตามินบี ช่วยอะไร ในกลุ่มสตรีมีครรภ์

อาหารเสริมวิตามินบีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

วิตามินบี ช่วยอะไร ในกลุ่มผู้สูงอายุ?

ในผู้สูงอายุร่างกายจะมีความสามารถในการดูดซึมวิตามินบีที่ได้รับจากการรับประทานอาหารน้อยลง นอกจากนี้ระบบทางเดินอาหารของผู้สูงอายุจะมีการผลิตกรดในกระเพาะอาหารที่น้อยลง ทำให้การดูดซึมวิตามินบีทำได้ยากขึ้น ซึ่งการขาดวิตามินบีในกลุ่มผู้สูงอายุ อาจส่งผลทำให้มีอาการซึมเศร้าและอารมณ์แปรปรวนได้

วิตามินบี ช่วยอะไร ในกลุ่มผู้ป่วยโรคต่างๆ?

เช่นโรคในระบบทางเดินอาหาร, โรคมะเร็ง, โรคโครห์น, โรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติ โรคต่างๆเหล่านี้ส่งผลให้มีการดูดซึมสารอาหารรวมไปถึงวิตามินบีได้น้อยลง จนไม่เพียงพอต่อร่างกาย

วิตามินบี 1 6 12 วิตามินบี ช่วยอะไร ดาวเด่นที่ร่างกายขาดไม่ได้

          วิตามินบี 1 6 12 จัดเป็นวิตามินบีที่ละลายในน้ำได้ดี จึงมักไม่สะสมภายในร่างกาย โดยวิตามินบี 1 6 12 แต่ละชนิดก็มีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป ดังนี้

          วิตามินบี 1 หรือไธอามีน (Thiamine) ช่วยบำรุงระบบประสาท บำรุงสมอง ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต บำรุงกล้ามเนื้อ ช่วยให้หัวใจทำงานเป็นปกติ สามารถรักษาโรคงูสวัดและเหน็บชาได้ บรรเทาอาการเมารถ เมาเรือ หรือเมาเครื่องบินได้ โดยวิตามินบี 1 พบมากในข้าวกล้อง จมูกข้าวสาลี นมถั่วเหลือง ถั่ว งา เมล็ดทานตะวัน และเนื้อหมู ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 1.2 mg สำหรับผู้ชาย และ 1.1 mg สำหรับผู้หญิง

          วิตามินบี 6 หรือ ไพริดอกซีน (Pyridoxine) ป้องกันการเกิดนิ่วในไต ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ทำให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดียิ่งขึ้น ป้องกันโรคทางประสาทและโรคผิวหนังบางชนิด และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายได้ โดยวิตามินบี 6 พบมากในเครื่องในสัตว์ อกไก่ มันฝรั่ง กล้วย และถั่วลูกไก่ ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 1.3 mg สำหรับผู้ชาย และ 1.3 mg สำหรับผู้หญิง

          วิตามินบี 12 หรือโคบาลามีน (Cobalamin) บำรุงระบบประสาท ทำให้ระบบประสาทแข็งแรง เพิ่มสมาธิ ความจำ และการทรงตัว บรรเทาอาการหงุดหงิด ลดความเครียด เพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย และสามารถทำให้ร่างกายนำไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตไปใช้ได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย การรับวิตามินบีเข้าสู่ร่างกายให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ควรรับประทานทุกชนิดควบคู่กันไป เนื่องจากวิตามินบีแต่ละชนิดจะทำงานเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน โดยวิตามินบี 12 พบได้มากในอาหารประเภทไข่ เนื้อสัตว์ ตับ ปลา นม โยเกิร์ต หรือชีส ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 2.4 mcg สำหรับผู้ชาย และ 2.4 mcg สำหรับผู้หญิง

วิตามินบี ตัวอื่นๆ ประโยชน์ที่มากมายไม่แพ้กัน

นอกจากวิตามินบี 1 6 12 แล้ว ยังมีวิตามินบีชนิดอื่นๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย เช่น

          วิตามินบี 2 หรือไรโบฟลาวิน (Riboflavin) ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย สร้างพลังงานให้กับร่างกายจากกระบวนการย่อยอาหาร และอาจช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรน โดยวิตามินบี 2 พบมากในไข่ไก่ เนื้อวัว เครื่องในสัตว์ เห็ด ผักใบเขียวอย่างบรอกโคลีและผักโขม

          วิตามินบี 3 หรือไนอะซิน (Niacin) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนชะลอการเสื่อมของร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเอนไซม์ในร่างกาย เสริมการทำงานของสมอง โดยวิตามินบี 3 พบได้ในข้าวกล้อง ถั่วลิสง เนื้อไก่ ตับ ปลาทูน่า และปลาแซลมอน

          วิตามินบี 5 หรือ กรดแพนโทเทนิก (Pantothenic Acid) นอกจากจะช่วยในกระบวนการย่อยอาหารแล้ว ยังช่วยในการสร้างและสลายไขมัน เสริมสร้างการผลิตฮอร์โมน รวมทั้งช่วยบำรุงผม เล็บ และผิวให้สุขภาพดีขึ้นด้วย โดยวิตามินบี 5 พบได้ในข้าวกล้อง เมล็ดทานตะวัน เห็ด มันฝรั่ง บรอกโคลี อาหารทะเล เครื่องใน นม ไข่ และโยเกิร์ต

          วิตามินบี 7 หรือ ไบโอติน (Biotin) จัดเป็นสารอาหารสำคัญที่มีส่วนในการบำรุงสุขภาพและร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเล็บ เส้นผม ผิวหนัง ดวงตา และสมอง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ โดยวิตามินบี 7 พบได้จากไข่แดง ตับ ไต  ถั่วลิสง อัลมอนด์ ถั่วเหลือง ดอกกะหล่ำ หรือกล้วย

          วิตามินบี 9 หรือ โฟเลท (Folate) เป็นสารอาหารที่ขาดไม่ได้ในคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะโฟเลทมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการของทารกในครรภ์ คุณแม่ที่ได้รับโฟเลทอย่างเพียงพอจะลดความเสี่ยงของความผิดปกติของทารกในระหว่างตั้งครรภ์ สำหรับคนทั่วไปก็โฟเลท หรือวิตามินบี อาหารชนิดนี้ก็จำเป็นเช่นกัน เพราะช่วยเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว จึงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้นและลดความเหนื่อยล้าจากภาวะโลหิตจาง โดยวิตามินบี 9 พบได้ในตับ ถั่ว ไข่ มะละกอ กล้วย อะโวคาโด ผักใบเขียวอย่างผักปวยเล้ง และบรอกโคลี

วิตามินบี 9 หรือ โฟเลท

วิตามินบี 9 หรือ โฟเลท (Folate) สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

มาเสริมวิตามินบี เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพและร่างกายกันเถอะ

          การเสริมวิตามินบีเข้าสู่ร่างกาย ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง อาหารเสริมวิตามินบี อาหารเหล่านี้เปรียบเหมือนเป็นการรวมเอาประโยชน์ของสารอาหารต่างๆเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งช่วยให้ร่างกายเราได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนใน ส่งผลให้ร่างกายและระบบประสาทสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

          ในปัจจุบันมีวิตามินบี หลากหลายสูตร โดยในแต่ละผลิตภัณฑ์จะมีสัดส่วนหรือปริมาณของวิตามินบีแตกต่างกันออกไป และบางผลิตภัณฑ์อาจมีการเติมส่วนประกอบหรือวิตามินชนิดอื่นเสริมลงไป เช่นสูตรผสมวิตามินบี อาหารเสริม วิตามินซี แคลเซียม และซิงค์

เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายหรือเสริมสุขภาพในด้านอื่นเพิ่มเติม

          สำหรับวิตามินบี อาหารเสริมโดยทั่วไป แนะนำให้รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 1-3 ครั้ง โดยปริมาณและระยะเวลาในการใช้จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์หรือเภสัชกรเป็นหลัก และจำเป็นต้องมีการประเมินถึงสาเหตุของโรคและความรุนแรงของอาการที่เป็นร่วมด้วย

          เวลาที่เหมาะสมสำหรับการรับประทานวิตามินบี คือ ควรเลือกรับประทานพร้อมมื้ออาหาร หรือรับประทานหลังอาหาร เนื่องจากเวลาดังกล่าวร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามินเข้าไปได้ดีที่สุด

          สำหรับวิตามินบี อาหารเสริมโดยทั่วไป แนะนำให้รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 1-3 ครั้ง โดยปริมาณและระยะเวลาในการใช้จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์หรือเภสัชกรเป็นหลัก และจำเป็นต้องมีการประเมินถึงสาเหตุของโรคและความรุนแรงของอาการที่เป็นร่วมด้วย

          เวลาที่เหมาะสมสำหรับการรับประทานวิตามินบี คือ ควรเลือกรับประทานพร้อมมื้ออาหาร หรือรับประทานหลังอาหาร เนื่องจากเวลาดังกล่าวร่างกายจะสามารถดูดซึมวิตามินเข้าไปได้ดีที่สุด

รวมทุกความรู้และผลิตภัณฑ์

วิตามินบี