น้ำมันตับปลา ภาษาอังกฤษเรียกว่า Cod liver oil เป็นน้ำมันที่สกัดจากตับของปลาคอดแอตแลนติก น้ำมันตับปลา ช่วยอะไรต่อร่างกายมากมาย จึงจะเห็นได้ว่าน้ำมันนี้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดี และเป็นหนึ่งในแหล่งที่ดีที่สุดของกรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega 3) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็น (essential fatty acid) ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างได้เองต้องได้รับจากการรับประทานอาหารเท่านั้น
โดยในกรดไขมันโอเมก้า 3 เรายังสามารถแบ่งออกได้อีกหลายชนิด ในน้ำมันตับปลา ประกอบไปด้วยกรดไขมันชนิด กรดโดโคซาเฮกซะอีโนอิก (Docosahesaenoic acid ,DHA) มีประโยชน์ในการช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของสมอง การเรียนรู้ ความจำ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีส่วนช่วยในเรื่องสุขภาพผิว ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี ชุ่มชื้นอีกด้วย และยังมีกรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก (Eicosapentaenoic acid ,EPA) ถือได้ว่าเป็นสารต้านการอักเสบ (Anti-inflammation) มีประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ ลดสิวอักเสบ ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย
จะเห็นได้ว่าน้ำมันตับปลา ช่วยอะไรมากกว่าความคาดหมาย เนื่องจากยังประกอบไปด้วยวิตามินเอ (Vitamin A) และวิตามินดี (Vitamin D) ค่อนข้างสูงด้วย
สารบัญเนื้อหา
น้ำมันตับปลา ช่วยอะไร ต่างจากน้ำมันปลาอย่างไร?
น้ำมันที่มาจากตับปลา เราพบว่าน้ำมันนี้ถูกใช้ในการแพทย์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1789 เพื่อรักษาโรคไขข้อ และโรคกระดูกอ่อนในปี พ.ศ. 2367 ในช่วงทศวรรษที่ 1930 มักให้ตับปลาแก่เด็กเพื่อช่วยป้องกันโรคกระดูกอ่อนและอาการอื่นๆ ที่เกิดจากการขาดวิตามินดี ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามีการใช้น้ำมันตับปลา ช่วยอะไรต่อโรคข้อ โรคกระดูก ทางการแพทย์มานานแล้ว
โดยน้ำมันปลา กับ น้ำมันตับปลา แตกต่างกันคือ น้ำมันปลามักสกัดจากเนื้อเยื่อของปลาน้ำลึกในทะเลลึก เช่น ปลาทูน่า ปลาเทราท์ ปลาแมคเคอเรล ปลาเฮอริ่ง ปลาแซลมอน และปลาค็อด ในขณะที่น้ำมันตับปลามาจากตับของปลาคอดเท่านั้น ประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 น้อยกว่าน้ำมันปลาทั่วไป แต่มีวิตามิน A และ D มากกว่า
ประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ำมันตับปลา ช่วยอะไรบ้าง มาดูกันเลย
น้ำมันตับปลา ประโยชน์อะไรบ้าง เป็นหนึ่งสิ่งที่หลายๆคนสงสัย คำตอบคือด้วยความที่น้ำมันตับปลาเป็นแหล่งสารอาหารที่ดีเยี่ยม และมีคุณสมบัติในการรักษาโรคได้ เช่นช่วยบรรเทาอาการตึงของข้อต่อที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ มีผลดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด และช่วยซ่อมแซมฟัน เล็บ ผม และผิวหนังที่เสียหาย ทำให้หลายคนนิยมเสริมน้ำมันตับปลา ช่วยอะไรต่อสุขภาพที่ดีของร่างกายได้นั่นเอง
น้ำมันตับปลา ช่วยบรรเทาอาการตึงของข้อต่อที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ
น้ำมันตับปลา ประกอบด้วยไขมันชนิดที่เหมาะสม
โดยทั่วไปแล้ว ทุกเซลล์ในร่างกายของเรามีความต้องการไขมัน เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 ดังนั้นคำถามที่ว่าน้ำมันตับปลา ช่วยอะไรต่อร่างกาย คำตอบคืออย่างที่เราทราบกันดีว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 ถูกพบได้มากในน้ำมันตับปลา ประโยชน์ของน้ำมันนี้จึงสามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพผิว เพิ่มวิตามินและการดูดซึมแร่ธาตุ และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันได้
นอกจากนี้การกินไขมันที่ดีต่อสุขภาพพร้อมมื้ออาหารเป็นประจำ ไขมันที่ดีที่อยู่ในน้ำมันตับปลา ช่วยอะไร คำตอบคือช่วยชะลอการสลายคาร์โบไฮเดรตเป็นน้ำตาล ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ด้วย ดังนั้นจะเห็นได้ว่า น้ำมันตับปลา ช่วยอะไรต่อระบบร่างกายในทุกๆส่วนจริงๆ
จอประสาทตาเสื่อมตามอายุชะลอได้ด้วยน้ำมันตับปลา
มีการศึกษาชี้ว่าน้ำมันโอเมก้า 3 ช่วยด้านสุขภาพดวงตาและป้องกันการเสื่อมสภาพของดวงตาตามอายุได้ การรับประทานน้ำมันตับปลาในปริมาณสูง จะได้รับ กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) ซึ่งช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของดวงตาตามอายุได้
นอกจากนี้ยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่อาจช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของดวงตาตามอายุได้ คือแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ช่วยส่งเสริมสุขภาพดวงตา ผิวพรรณ ป้องกันมะเร็ง และลดอันตรายจากแสงแดดได้ ซึ่งในน้ำมันตับปลามีแคโรทีนอยด์สูงนั่นเอง
โรคหลอดเลือดหัวใจ
การรับประทานน้ำมันตับปลา ช่วยอะไรต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจค่อนข้างมากทีเดียว การรับประทานเป็นประจำทุกวันช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ มีกรดไขมันในน้ำมันตับปลาซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพ
น้ำมันตับปลา บำรุงสมอง
โอเมก้า 3 และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง DHA เป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับสมองของเรา จากการศึกษาพบว่าโอเมก้า 3 สามารถมีบทบาทในการลดความวิตกกังวลได้ และในผู้ที่รับประทานน้ำมันตับปลาเป็นประจำ พบว่ามีอาการซึมเศร้าน้อยลงได้อีกด้วย
นอกจากนี้ DHA เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการบำรุงสมอง ซึ่งถ้าเราได้รับ DHA ในปริมาณมากเพียงพอ จะช่วยให้ความคิดและการจดจำดีขึ้น
ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน
น้ำมันตับปลา ช่วยอะไรกับระบบทางเดินหายใจ เราจะพบว่าน้ำมันตับปลาช่วยป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนได้ จากการศึกษาในเด็ก พบว่า เด็กที่ได้รับน้ำมันตับปลาและวิตามินรวมพบว่าจำนวนการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น โรคไข้หวัด ในขณะที่กลุ่มควบคุมไม่พบการเปลี่ยนแปลงในจำนวนการติดเชื้อทั่วไป
ผู้ที่มีอาการขาดวิตามินดี
ตามที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าวิตามินดีมีความจำเป็นสำหรับการดูดซึมแคลเซียมและสร้างกระดูก
มีการศึกษาว่าการเสริมน้ำมันตับปลา ช่วยอะไรต่อระดับวิตามินดีได้บ้าง พบว่าเสริมน้ำมันชนิดนี้ช่วยเพิ่มระดับวิตามินดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสตรีวัยหมดประจำเดือน การเสริมน้ำมันตับปลาทุกวัน สัมพันธ์กับระดับวิตามินดีในเลือดที่สูงขึ้น และมีโอกาสที่จะขาดวิตามินดีในช่วง ฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิน้อยกว่าผู้ที่ไม่ทานอาหารเสริม
น้ำมันตับปลา กินตอนไหนดี และควรกินในปริมาณท่าไหร่
เมื่อดูข้อมูลทางโภชนาการของน้ำมันตับปลาตามที่กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) ระบุว่า น้ำมันตับปลา 1 ช้อนชา น้ำหนัก 4.5 กรัม ประกอบด้วย
พลังงาน 41 แคลอรี่
วิตามินเอ 4,500 หน่วยสากล (IU)
วิตามินดี 450 หน่วยสากล (IU)
กรดไขมันอิ่มตัว 1.017 กรัม
กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว: 2.102 กรัม
กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน: 1.014 กรัม
คอเลสเตอรอล: 26 มิลลิกรัม
อาหารเสริมน้ำมันตับปลา ช่วยอะไรต่อสุขภาพมากมาย เราสามารถหาซื้อได้จากแหล่งที่เชื่อถือได้ สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำมันตับปลา มาจากแหล่งที่มีชื่อเสียงและเป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
โดยน้ำมันตับปลา กินตอนไหน เวลาไหนก็ได้ แต่ควรรับประทานน้ำมันตับปลาพร้อมมื้ออาหารจะช่วยลดการเกิดผลข้างเคียงได้
และเริ่มทานเร็ว ยิ่งได้ประโยชน์เร็ว แต่อย่ากินเกินขนาดที่แนะนำโดยไม่ได้รับการดูแลจากแพทย์
น้ำมันตับปลากินตอนไหน และกินในปริมาณเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปไม่ควรรับประทานเกิน 30 มิลลิลิตรต่อวัน และในผู้ใหญ่ควรรับประทานวันละ 1 เม็ด
ควรรับประทานน้ำมันตับปลาวันละ 1 เม็ด สำหรับผู้ใหญ่