เหตุใดวิตามินซีจึงเป็นหนึ่งในส่วนผสมของเซรั่ม วิตามินซี เพื่อการดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

          เซรั่ม วิตามินซี หรือ ครีม วิตามินซี ถือเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับการดูแลผิวในปัจจุบัน แต่วิตามินซีทำงานอย่างไรกับผิวกันแน่? ด้วยคุณสมบัติการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระของวิตามินซีใช่หรือไม่? จึงทำให้ส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อผิวพรรณของคุณ

          ก่อนอื่นเราคงต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าวิตามินซีคืออะไร? วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพที่สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดี วิตามินซีช่วยในกระบวนการฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ เช่นความเสียหายจากการเผชิญกับรังสียูวี และการสัมผัสมลพิษทางอากาศ เป็นต้น

          ไม่ว่าจะเป็นเซรั่ม วิตามินซี หรือ ครีม วิตามินซี ล้วนมีประโยชน์ในการช่วยบำรุงผิว โดยไม่ได้จำกัดอยู่แค่สถานะการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติในการรักษาผิวอื่น ๆ มากมายเช่นความมีฤทธิ์เป็นกรดสูง ผิวจะถูกกระตุ้นให้รักษาตัวเองด้วยการเร่งการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน โดยทั้งคอลลาเจนและอีลาสตินเป็นทั้งเส้นใยโปรตีนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวเต่งตึงดังนั้นเซรั่ม วิตามินซี หรือครีม วิตามินซี จึงมีความสามารถช่วยป้องกันการแก่ก่อนวัยของผิวได้ด้วย

1. ช่วยป้องกันความเสียหายของผิวจากแสงแดด
2. ลดจุดด่างดำ
3. ช่วยให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น
4. ช่วยเพิ่มคอลลาเจน
5. ช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น และลดรอยแผลเป็น

1.ช่วยป้องกันความเสียหายของผิวจากแสงแดด

          การได้รับแสงแดดเป็นเวลานานส่งผลต่อผิวหนังหลายอย่าง เช่น ความไม่สม่ำเสมอ รอยด่างดำ การใช้ครีม หรือ เซรั่ม วิตามินซี ทุกวันจะช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายมากเกินไปได้ ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ใน เซรั่ม หรือครีม วิตามินซีช่วยป้องกันความเสียหายของผิวที่เกิดจากแสงยูวีได้ ดังนั้นการใช้ครีม วิตามินซี ควบคู่ไปกับครีมกันแดด จะช่วยส่งผลดีกับผิวของคุณได้มากกว่าการใช้ครีมกันแดดเพียงอย่างเดียว

2.ลดจุดด่างดำ

          การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีวิตามินซี เช่นในเซรั่ม วิตามินซี เป็นประจำสม่ำเสมอ จะช่วยทำให้รอยคล้ำ จุดด่างดำต่างๆของคุณจางลง

3.ช่วยให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น

          วิตามินซีเป็นส่วนประกอบที่มีประสิทธิภาพในผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยหลายชนิด การใช้เซรั่ม วิตามินซี หรือครีม วิตามินซี ร่วมกัยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้ริ้วรอยลดน้อยลง ช่วยให้ผิวดูอ่อนกว่าวัยได้ เนื่องจาก ครีม วิตามินซี จะช่วยในการสร้างผิวใหม่โดยการต่อต้านอนุมูลอิสระนั่นเอง

4. ช่วยเพิ่มคอลลาเจน

          คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีอยู่ในผิวของคุณตามธรรมชาติและช่วยป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการหย่อนคล้อย แต่ร่างกายของเราจะผลิตคอลลาเจนได้ลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น ดังนั้นการใช้ เซรั่ม วิตามินซีกับผิวเป็นประจำ สามารถกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ให้เติบโตได้ นอกจากนี้ยังช่วยรักษาคอลลาเจนที่มีอยู่เดิมไม่ให้เกิดความเสียหาย

5.ช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น และลดรอยแผลเป็น

          วิตามินซีช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น โดยวิตามินจะเข้าไปช่วยให้ร่างกายมีการผลิตคอลลาเจนที่จำเป็นในการแก้ไขอาการบาดเจ็บนั่นเอง

          กุญแจสำคัญสำหรับการเลือกเซรั่ม วิตามินซี / ครีม วิตามินซี ไม่ใช่รูปแบบของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นเซรั่ม หรือครีม ล้วนสามารถนำส่งวิตามินซีเข้าสู่ผิวได้เช่นเดียวกัน แต่เป็นรูปแบบของวิตามินซีที่ถูกนำไปใช้ต่างหาก กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) หรือที่เรียกว่ากรดแอล-แอสคอร์บิก (L-ascorbic) เป็นวิตามินซีรูปแบบที่เสถียรและมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับการดูแลผิว แต่อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่ายังมีวิตามินซีรูปแบบที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ ที่เช่น โซเดียม แอสคอร์บิล ฟอสเฟต (Sodium ascorbyl phosphate), แอสคอร์บิล พัลมิเตต (Ascorbyl palmitate) เป็นต้น

          และควรมองหาเซรั่ม วิตามินซี หรือ ครีม วิตามินซี ที่มีความเข้มข้นของวิตามินซีระหว่าง 10% ถึง 20% ขึ้นไป เพราะความเข้มข้นที่ต่ำกว่านั้นอาจไม่ได้ให้ประโยชน์ได้มากเพียงพอ และความเข้มข้นที่สูงกว่านั้นอาจระคายเคืองผิวของคุณได้

          วิตามินซีทุกรูปแบบผลิตภัณฑ์สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิว และสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีได้ โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ทาลงบนผิวได้วันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้าและก่อนนอน หลังจากทำความสะอาด

          สำหรับใครที่มีผลิตภัณฑ์บำรุงหลากหลายชนิด แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์โดยเรียงลำดับจากเนื้อที่บางที่สุดไปจนถึงเนื้อหนาที่สุด เช่นเริ่มด้วย เซรั่ม มอยส์เจอไรเซอร์ ครีม เป็นต้น

          สำหรับการเก็บรักษา เนื่องจากวิตามินซีมีความไวต่ออากาศและแสงเป็นอย่างยิ่ง และจะสลายตัวเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น เซรั่ม วิตามินซี ควรจะต้องอยู่ในขวดทึบแสง หรือภาชนะปั๊มเพื่อช่วยให้มั่นใจว่าส่วนผสมจะคงตัว